วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เก้าอี้วีลแชร์ไฮโดรลิค ติดรถยนต์

ตอนที่มองหาร้านติดตั้ง เก้าอี้วีลแชร์แบบไฮโดรลิค สำหรับรถยนต์ พบว่าข้อมูลหายากมาก โชคดีที่ตัดสินใจไม่ผิด  ประกอบกับมีเพื่อนคนอื่นได้แชร์ข้อมูลเพิ่ม  วันนี้เลยขอคุยเรื่องนี้บอกเล่าประสบการณ์กันค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กันนะคะ

จากข้อมูลที่ค้นหามา เก้าอี้ไฮโดรลิค ที่ติดตั้งรถยนต์นั้น มีสองแบบ คือ แบบไฮโดรลิคที่หมุน และยกลงเท่านั้น (แต่ไม่ได้เป็นวีลแชร์ในตัว จะต้องเคลื่อนย้ายมาใช้วีลแชร์ที่พกติดรถด้วย)  และอีกแบบคือ ระบบไฮโดรลิคแบบที่มีวีลแชร์ในตัว  เมื่อหมุนและยืดแขนออกมาจากตัวรถ เก้าอี้วีลแชร์นั้นจะค่อยๆลดระดับลงมาจนแตะพื้น และสามารถเข็นวีลแชร์นั้นออกมา เพื่อการใช้งานในที่อื่นๆได้ทันที  โดนเจ้าแขนกลไฮโดรลิคจะสามารถหมุนเข้าพับเก็บยังตำแหน่งเดิมได้

สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถใหม่เพื่อการติดตั้งเก้าอี้แบบนี้ หรือมองหาร้านที่รับติดตั้ง  ข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ :)

ตอนที่ผู้เขียนหาข้อมูลเพื่อติดตั้งวีลแชร์ไฮโดรลิคให้คุณพ่อ ไม่เคยทราบว่ามีรถฮุนได H1 ที่ออกศูนย์ พร้อมบริการติดตั้งเพิ่มวีลแชร์แบบไฮโดรลิคนี้ได้เลย  ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่สะดวก ซึ่งการเข้ารับบริการทางศูนย์จะดูแลในส่วนนี้ด้วย ซึ่งได้ข่าวว่าเป็นที่ ศูนย์ฮุนได รัตนาธิเบศน์  ลองติดต่อสอบถามข้อมูลกันดูนะคะ

ส่วนแบบที่ผู้เขียนติดตั้งไปเป็น การติดตั้งแยกต่างหาก  โดยซื้อรถขนาดกลางที่มีประตูสไลด์รุ่น Honda Spada (Stepwagon) และติดตั้งเก้าอี้เพิ่มแถวท่าข้าม พระราม 2 ที่ร้าน P&M ตามเฟสบุ็คนี้ค่ะ https://www.facebook.com/WelcabThailand  ลองศึกษาข้อมูลดูนะคะ

สิ่งที่จำเป็นที่ต้องคำนึงเพื่อการติดตั้งเก้าอี้ไฮโดรลิคถึง มี 3 ข้อดังนี้

1) รถยนต์ที่มีประตูสไลด์
     เพราะเก้าอี้วีลแชร์แบบไฮโดรลิคจะต้องเผื่อพื้นที่ให้แขนกลยื่นออกมาส่งเก้าอี้ด้านนอกรถ รถที่จะติดตั้งได้จะต้องมีประตูสไลด์เท่านั้น  แต่ไม่เจาะจงว่าจะต้องเป็นรถขนาดใหญ่   ตอนนี้รถขนาดเล็กอย่างฮอนด้าฟรีด Honda Freed ก็สามารถติดตั้งได้เช่นกัน  เพียงแต่หากเราติดตั้งกับรถเล็ก เราก็จะเสียพื้นที่นั่งด้านหลังเก้าอี้วีลแชร์นี้ไปหนึ่งที่   ในขณะที่เราใหญ่จำนวนคนนั่งยังได้เท่าเดิม แต่พื้นที่นั่งด้านหลังวีลแชร์จะแคบลงเพราะติดก้านมือเข็นของวีลแชร์นั่นเองค่ะ

2) เวลา
    ตามเวลาที่สั่งทำ ใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์  โดยเราจะสามารถสั่งทำตามความต้องการของเราได้ เช่นเลือกวัสดุ เลือกสีเบาะ สีด้าย ให้ใกล้เคียงกับเบาะตัวอื่นๆในรถ หรืออาจสั่งเพิ่มอุปกรณ์ที่จำเป็นเข้าไป เช่นกระเป๋าเพื่อใส่อุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือหนุนด้านหลังให้นั่งสะดวกขึ้น เป็นต้น

   เมื่อนำรถเข้าไปติดตั้งจะต้องทิ้งรถไว้ประมาณ 5 วันค่ะ

3) งบประมาณ
    เท่าที่คุยกับเพื่อนๆที่ซื้อรถและติดตั้งเก้าอี้วีลแชร์ มักจะตั้งงบประมาณรวมอยู่ที่ 2 ล้านบาท  ซึ่งหมายถึงออกรถใหม่อย่าง Hundai H1 หรือ Honda Spada  ที่ราคาประมาณ 1.2-1.8 ล้านบาท   หากเราเลือกใช้รถที่เล็กลงอย่าง Honda Freed ก็เป็นตัวเลือกที่ดี  ออฟชั่นดีกว่า Spada อีก ราคาก็จะประหยัดไปอีกมาก อยู่ที่ 1 ล้านเท่านั้น

     ราคาติดตั้งวีลแชร์ อยู่ที่ประมาณ 2 แสนบาท บวกลบ  แล้วแต่วัสดุ และขนาด ซึ่งจะสัมพันธ์กันกับรถที่จะใช้งานค่ะ

     สำหรับร้านที่เราติดตั้งไป จะรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น ทั้งมัดจำและจ่ายตอนจบงานนะคะ

ลองมาชมภาพประกอบกันบ้างค่ะ  เป็นภาพของรถที่บ้านเองค่ะ :)

เก้าอี้วีลแชร์ของคุณพ่อ  เก้าอี้ด้านข้างคุณพ่อต้องพับก่อนหมุนวีลแชร์ลงมา

หลังจากเข็นออกจะมีฐานอยู่ ซึ่งกดรีโมทเก็บขึ้นได้ รีโมทมีแบบพกติดตัว กับแบบติดกับตัวรถข้างประตู



วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แนะนำโรงแรมสำหรับวีลแชร์ ตอน 2

โรงแรมที่ 2 นี้ ฮิปและเก๋มากค่ะ  ตั้งอยู่ที่พัทยา นาเกลือ ซ. 12  ซอยเดียวกับปราสาทสัจธรรม   เข้ามาตามป้ายปราสาทสัจธรรม และ เลยมาจนสุดทางค่ะ  โรงแรมตั้งอยู่สุดทางจริงๆ ชื่อว่า "เซ็นทารา แกรนด์ โมดัส"  (Centara Grand Modus)    



ได้ยินมาว่าโรงแรมแห่งนี้มีเจ้าของเป็นถึงนักออกแบบ  แม้ว่าจะขนาดเล็กสักหน่อย แต่ดีไซน์สวยเก๋ และสะดวกสำหรับผู้ใช้วีลแชร์มาก แถมยังติดทะเลอีกด้วยล่ะค่ะ   พนักงานโรงแรมใจดีจัดห้องคอนเน็คติ้งรูม  ที่เปิดเชื่อมกันได้ให้เราอีกแล้วค่ะ  จะได้ช่วยกันดูแลคุณพ่อได้สะดวกขึ้น ห้องพักทุกห้องได้ชมวิวทะเล ด้านตรงเต็มๆเลยค่ะ ไม่เหมือนกับโรงแรมหลายแห่งที่เห็นวิวจากด้านข้างเท่านั้น  ปลื้มค่ะ

เชิญชมภาพกันดีกว่าค่ะ ว่าสวยเก๋ขนาดไหน
นี่เป็นภาพที่เห็นจากระเบียงห้องที่กว้าง มีที่นั่งใหญ่ให้ดูวิวสวยทั้งวัน เรือนกระจะคือฟิตเนสติดทะเล


วิวจากมุมตรง สวยเต็มๆไปเลย


บรรยากาศและการตกแต่งห้อง เตียงใหญ่นอนสบาย















ห้องน้ำแคบหน่อย พกเก้าอี้มาใช้ในห้องอาบน้ำด้วยนะคะ
ทางเดินที่เรียบ พร้อมทางลาดทั่วโรงแรม
ลิฟท์เก๋ พื้นลาดเรียบเข้าออกง่าย  ทางเดินก็กว้างสะดวกเข็น
ความสวยเก๋ และสะดวก ครอบคลุมถึงห้องน้ำที่โถงทางเดิน
เรียกว่าโรงแรมนี้ตอบโจทย์ความต้องการของการท่องเที่ยวแบบครอบครัวจริงๆค่ะ  เข็นวีลแชร์พาผู้ใหญ่เที่ยวก็สะดวก  มากับเด็กน้อยก็สนุกนะคะ  มีสระว่ายน้ำหลายสระ  แถมยังมีสระเด็กใหญ่ด้วยล่ะค่ะ  อ้อ! มีสระจากุซซี่ กว้างขวางอีกด้วยนะคะ

ปิดท้าย ขอให้คะแนนส่วนตัวสำหรับ เซ็นทารา แกรนด์ โมดัส แบบ 10/10 ไปเลยค่ะ  สำหรับตอนหน้า ขออนุญาติปิดตอนการรีวิวโรงแรมในพัทยา ด้วยโรงแรมที่ไม่แนะนำสำหรับผู้ใช้วีลแชร์กันบ้างนะคะ


วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แนะนำโรงแรมสำหรับวีลแชร์ ที่พัทยา #1

หลายครั้งที่การเลือกโรงแรมเป็นเรื่องยากสักหน่อย  เพราะต้องคำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้วีลแชร์ด้วย วันนี้เลยถือโอกาสแนะนำโรงแรมที่พัทยา ที่ครอบครัวเราอยากติดดาวเพิ่มให้ กับโรงแรมที่อยากส่งสัญญาณให้ระวังค่ะ  

โดยมากแล้ว โรงแรมใหญ่ๆจะมีการออกแบบที่อำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้วีลแชร์มากกว่าโรงแรมเล็ก แต่ถึงอย่างนั้น ก็อาจมีบางจุดที่ยังไม่มีทางลาด  ยกตัวอย่างเช่น

1. โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้ จอมเทียน พัทยา

โรงแรมนี้เป็นโรงแรมใหญ่ มีชื่อเสียงมานาน ตั้งอยู่ที่หาดจอมเทียน เลยพัทยาใต้ไปอีกหน่อยค่ะ  บางส่วนอาจดูเชยๆเล็กน้อย แต่โรงแรมก็มีการปรับปรุงต่อเนื่อง ทำให้ไม่ดูเก่าหรือโทรม พร้อมมีพื้นที่กว้าง และติดหน้าหาด สามารถเข็นวีลแชร์เที่ยวชมจุดต่างๆ เพื่อเดินเล่นและชมวิว แก้เบื่อได้  รวมทั้งมีร้านกาแฟ และร้านอาหารยุโรปเก๋ๆ ก่อนทางไปหาด ให้นั่งเล่นรับลมได้ชิลล์ค่ะ

ครอบครัวเราเลือกพักที่ตึกหลัก ซึ่งก็คือตึก โอเชี่ยนวิงค์ค่ะ ด้วยความคุ้นเคยและความสะดวกค่ะ มีลิฟท์แก้วหลายตัวทำให้ไม่ต้องรอนาน  มีสระว่ายน้ำ  ห้องอาหาร และลิฟท์ไปยังชั้นล่างที่หาดได้โดยตรง ที่สำคัญเราสามารถขอเป็นห้องคอนเน็กซ์ติ้งรูม (เชื่อมต่อสองห้อง) ได้ ซึ่งทำให้สะดวกต่อการดูแลคุณพ่อคุณแม่ได้ง่ายขึ้นมากค่ะ

เชิญชมภาพบรรยากาศของโรงแรมกันค่ะ

วิวจากห้องพัก ชิลล์ๆแบบไม่ต้องไปไหน ชมวิวจากระเบียงได้เลย
เข็นคุณพ่อมาชมวิวได้สุดขอบระเบียง ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ ชมวิวหนุ่มสาวระยะใกล้สุดๆ

ลงลิฟท์และเข็นวีลแชร์มาทานกาแฟรับลมค่ะ  ร้านเก๋ๆลมเย็นๆ

มุมด้านนอกของร้านกาแฟ ร้านด้านข้างขายพิซซ่าค่ะ

ทางเท้าที่เรียบ และกว้าง เข็นวีลแชร์ได้สะดวก

ทางลาดตามทางเดินแสนสะดวก
ตอนเย็นๆ จะมีบริการอาหารเย็นแบบเป็นซุ้ม ในบริเวณลานกว้าง (ใกล้กับทางเดินตามภาพด้านบน) ซึ่งสามารถเข็นวีลแชร์มาร่วมสนุก ทานอาหารได้สบายๆค่ะ  ประเภทอาหารจะมีการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ไปเรื่อยๆนะคะ  

ในขณะมีข้อดีมาก ก็มีข้อเสียอยู่เล็กน้อยค่ะ น่าเสียดายที่ห้องอาหารสำหรับอาหารเช้าของแขก  เป็นบันไดประมาณ 5 ขั้น  และไม่มีทางลาดให้เข็นวีลแชร์ได้  ทำให้เราต้องพยุงคุณพ่อออกกำลังเดินขึ้น และแบกวีลแชร์ขึ้นมาตามค่ะ  ถ้าทางโรงแรมทำทางลาดที่จุดนี้  จะดีเลิศเหมาะกับผู้ใช้วีลแชร์ และผู้สูงอายุเป็นอย่างมากเลยค่ะ (ซึ่งน่าจะทำได้สบายๆ เพราะมีบันไดขึ้นห้องอาหารหลายจุด และแต่ละบันไดก็กว้างมากด้วย)

สรุปเป็นคะแนน สำหรับความเหมาะสมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีวีลแชร์  โดยรวมได้คะแนน 8/10 ค่ะ  แล้วมาติดตามอ่านโรงแรมต่อไปในพัทยาอีกนะคะ 

เอาวีลแชร์ไปชมรถโบราณ ที่เจษฎาเทคนิคมิวเซียม

ชอบรถโบราณกันมั้ยคะ?  ทริปนี้เราจะเข็นวีลแชร์ไปชมรถโบราณกัน ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลยค่ะ  แค่นครปฐมเอง ประมาณ 1 ชม. เศษๆ ก็ถึงแล้วล่ะค่ะ    ทางไปก็ซับซ้อนเล็กน้อยหากไปทางแม่น้ำนครชัยศรี  แต่นับว่าไม่ยากนะคะ  เพราะทุกทางแยกจะมีป้ายไปเจษฎาเทคนิคมิวเซียมตลอดทางค่ะ  แต่ป้ายอาจจะเล็กสักหน่อย คอยสังเกตุกันดีๆนะคะ

แผนที่ไปเจษฎาเทคนิคมิวเซียม จากเว็บของทางมิวเซียมค่ะ
มาถึงที่มิวเซียมก็แวะเข้ามาจอดด้านหน้าส่งคุณแม่ และคุณพ่อ พร้อมวีลแชร์คู่ใจก่อน  แล้วค่อยจอดรถที่ริมถนนด้านหน้า  ที่นี่ไม่มีการเก็บค่าเข้าชมนะคะ  เพียงแต่ต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนก่อนค่ะ  ให้ข้อมูลคนเดียวสำหรับทั้งกลุ่มได้เลยค่ะ

สำหรับผู้ใช้วีลแชร์ โดยภาพรวม สามารถเยี่ยมชมได้ประมาณ 60% ของพื้นที่ค่ะ  ถึงแม้ว่ามิวเซียมจะมีเพียงชั้นเดียว และไม่มีขั้นหรือขอบแต่อย่างใด  แต่พื้นที่บางโซนมีการจัดวางรถโบราณแบบแน่นเอียด จึงมีช่องว่างไม่พอให้รถวีลแชร์สามารถเข็นผ่านไปได้ค่ะ

แต่ยังไงก็ขอแนะนำให้มานะคะ  ส่วนที่เข้าถึงได้ก็นับว่ามีรถโบราณหลากหลายเก๋ไก๋ คุ้มค่าต่อการชมอยู่แล้วค่ะ  โซนไหนเข้าไม่ถึงจริงๆก็ชะโงกทัวร์เล็กน้อยค่ะ อิอิ

ขบวนรถหัวแถวทางเดิน ต้อนรับแขกด้วยความสดใส 

ทางเดินที่กว้างในช่วงต้น เข็นวีลแชร์ชมได้สบายๆ

โซนด้านหลัง ทางเดินแคบ ตอนท้ายวีลแชร์เข้าไม่ถึง


โซนนี้เข็นวีลแชร์เข้าถึง สนุกไม่น้อย

ที่มิวเซียมนี้หยุดเฉพาะวันอาทิตย์และวันจันทร์  เปิดบริการให้ชมตั้งแต่ 9:00 - 16:00 น. นะคะ  สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม  สามารถอ่านได้ที่ www.jesadatechnikmuseum.com/ หรือ โทร +66 (0) 2819 4000 นะคะ  มีความสุขกับการท่องเที่ยวอย่าให้วีลแชร์เป็นอุปสรรคนะคะ :)

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557

พัทยา สนุกไม่ซ้ำ ที่เที่ยวใหม่เพียบ ตอน 1

พัทยา น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มาบ่อยเป็นอันดับต้นๆตั้งแต่เด็กๆ  แต่พอนึกถึงการท่องเที่ยววันนี้ที่ต้องเข็นวีลแชร์พาคุณพ่อเที่ยว ที่คิดว่ายากกลับไม่ยากเลย เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆในพัทยาเพิ่มมากขึ้น  และมีหลายแห่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงวัย และผู้ใช้รถเข็น การเที่ยวพัทยาก็เลยมีโปรแกรมแปลกใหม่ได้อีกค่ะ

โปรแกรมเที่ยวมีให้เลือกเยอะ แต่ขออนุญาติแนะนำให้มาเที่ยวพัทยาสัก 2 วัน 1 คืน กำลังดี ไม่มีเวลาเหงา  เพราะพัทยามาง่ายๆ ไม่ต้องรีบเที่ยวครั้งเดียวหมด แต่มาบ่อยๆแทนก็สนุกนะคะ  ยิ่งถ้ามากับผู้สูงวัยด้วยแล้ว ควรเที่ยวไปพักไปแบบสบายๆค่ะ

ตอนที่ 1 มีไฮไลท์ 2 แห่ง ที่ขอแนะนำ นั่นคือ Mimosa น่ารักๆแบบเมืองเล็กๆในอิตาลี และ อลังการโชว์ ที่ดูได้เพลินๆแบบไทยๆ ต่างจากสไตล์ทิฟฟานี่ที่อาจไม่เหมาะกับผู้ใหญ่ ที่รักสงบเท่าไรนัก

Mimosa จำลองเมืองเล็กๆในอิตาลี มายังจอมเทียน พัทยา

การเดินทางมามิโมซ่าไม่ยากเลยล่ะค่ะ  ตั้งอยู่ที่จอมเทียน พัทยาใต้  เยื้องกับโรงแรมแอมบาสเดอร์ จอมเทียนค่ะ พอเลี้ยวรถเข้ามาในที่จอดรถ จะเห็นบู้ทขายบัตรอยู่ตรงทางเข้า ถ้ามีผู้ใช้รถเข็น เราสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนยื่นบัตรผ่าน เพื่อให้เปิดทางเข้าสำหรับเข็นวีลแชร์ผ่านเข้าไปได้ สบายๆเลยค่ะ บรรยากาศของสถานที่น่ารักมากๆ เหมาะกับการถ่ายรูป และตลอดทางก็เป็นทางลาด สะดวกต่อการเข็นมากค่ะ  ที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10:00 ถึง 22:00 น.นะคะ  ส่วนค่าบัตรเข้าชมก็คนละ 150 บาทค่ะ

มีภาพสวยๆบางส่วนมาฝากค่ะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านต่อไปที่  http://www.mimosa-pattaya.com/ 
มุมร้านกาแฟน่ารักๆแบบอิตาลี

ทางลาดให้เข็นชมบรรยากาศ (แต่ถ้าชมร้านค้าระยะใกล้จะติดขอบนะคะ)


ชม อลังการ โชว์ ที่จอมเทียน

ก่อนอื่นต้องออกตัวขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาอวดเลยค่ะ  เพราะไปสายจะเริ่มโชว์แล้ว และต้องเข็นวีลแชร์คุณพ่อ กับประสานงานเจ้าหน้าที่ จนไม่มีเวลาถ่ายภาพ  แต่เพราะประทับใจหลายอย่างที่นี่ จึงต้องขอบอกเล่าจากประสบการณ์จริงล้วนๆค่ะ

จากมิโมซ่า มาอลังการ เป็นเส้นทางเดียวกันพอดีค่ะ  เพราะอยู่ที่จอมเทียนเหมือนกัน  แต่ต้องเลยมาพอสมควร อลังการตั้งอยู่บนสถานที่กว้างใหญ่มาก  แต่ก็สะดวกกับการใช้วีลแชร์มากเช่นกัน เพราะมีการทำทางลาดไว้หมด  พร้อมกับมีวีลแชร์เตรียมพร้อมให้บริการอีกด้วยในกรณีที่ไม่ได้เตรียมมาเอง    ตอนที่เราไปเที่ยวกัน มีวีลแชร์เฉพาะของคุณพ่อ  ส่วนคุณแม่พอเดินไหวตอนขาเข้า และได้ใช้บริการวีลแชร์ตอนขาออก เพราะสถานที่กว้างใหญ่เกินการเดินของผู้สว.  ถ้ามีเคสจำเป็นนี้ก็ไม่ยากนะคะ  เพราะมีวีลแชร์มีเตรียมพร้อมรอไว้ที่หลังประตูโถงอาคารการแสดงค่ะ

โชว์ก็สนุกและอลังการสมชื่อ ใครที่เคยชมสยามนิรมิตร ก็ต้องบอกว่าอลังการไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น  แต่เป็นแนวเดียวกัน  ยิ่งใหญ่แบบน้องๆค่ะ  สนุกและสวยงามประทับใจ อ้อ!  เนื่องจากมีคุณพ่อซึ่งนั่งวีลแชร์ไปด้วย  ทางเจ้าหน้าที่ก็จัดเตรียมที่นั่งให้เราเป็นพิเศษอีกด้วยค่ะ

อลังการมีการแสดงทุกวัน ยกเว้นวันพุธ  ตอน 18:00 น.ค่ะ  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อ่านรายละเอียดได้ที่
http://www.alangkarnthailand.com/main.htm นะคะ


สนุกทริปนี้ที่พัทยาแล้ว รอบหน้ามาพัทยาใหม่ ลองตามมาดูไอเดียเพิ่มจากตอน 2 สำหรับที่เที่ยวสนุก
ด้วยวีลแชร์กันอีกนะคะ

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557

เข็นวีลแชร์ชิลล์ๆ ที่ตลาดน้ำขวัญเรียม

คุณพ่อผู้ใช้วีลแชร์แนะนำว่า ทริปที่ควรแชร์คือ "ตลาดน้ำขวัญเรียม" เพราะได้สัมผัสบรรยากาศตลาดน้ำได้อย่างสะดวกสบายจริงๆ  ตอบโจทย์ทั้งคุณแม่ที่ชอบช้อปปิ้งอีกด้วยล่ะค่ะ

เอกลักษณ์อย่างนึงที่เก๋ มากๆของที่นี่คือ มีตลาดอยู่ทั้งสองฝั่งของคลองแสนแสบ คือที่วัดบำเพ็ญเหนือเสรีไทย 60 และ วัดบางเพ็งใต้รามคำแหง 187  โดยมีสะพานไม้เชื่อมไว้  ทำให้ผู้มาเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศและสนุกกับการช้อป เหมือนได้ชิมและช้อปท้้งสองตลาดในคราวเดียวค่ะ


ทีตลาดขวัญเรียมแห่งนี้ ได้ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้วีลแชร์โดยเฉพาะ  ทุกที่จะมีทางลาดไว้เสมอ รวมถึงห้องน้ำที่แยกออกมาเป็นสัดส่วน  และที่ปลื้มมากคือ "ลิฟท์" ที่อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ที่ต้องการข้ามสะพานไป-กลับจากตลาดฝั่งตรงข้าม ซึ่งให้บริการอยู่ที่ด้านข้างของสะพานทั้งสองฝั่งค่ะ และไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดนะคะ  


มีความสุขกับการชิม ชม ช้อปกันมากๆนะคะ


(อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.kwan-riamfloatingmarket.com/)