แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ที่เที่ยวรถวีลแชร์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ที่เที่ยวรถวีลแชร์ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เข็นวีลแชร์มาเที่ยวมินิจีน ที่เล่งเน่ยยี่ 2

เข็นวีลแชร์มาเที่ยวมินิจีน ที่เล่งเน่ยยี่ 2

ช่วงหลังนี้คุณพ่อเที่ยวไม่ค่อยไหวค่ะ  เราเลยเลือกเข็นพาคุณพ่อเที่ยวใกล้ๆ ในกรุงเทพฯ  ที่เที่ยวล่าสุดที่ขอแนะนำสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ทุกท่าน คือ "วัดเล่งเน่ยยี่ 2" ที่บางบัวทองค่ะ

สำหรับทุกท่านที่ให้แอพฯหรือกูเกิลแมพนำทาง อาจต้องลองพิมพ์ชื่ออื่นๆดูด้วย อย่าง "วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์หรือ วัดมังกร2 นะคะ  ส่วนแผนที่ทางไปคร่าวๆ ตามนี้ค่ะ




พอมาถึงจะมีที่จอดรถอยู่ทั้งด้านซ้าย และขวาของวัดนะคะ สะดวกเหมือนกันทั้งสองด้านค่ะ  มาถึงก็ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าวัดค่ะ  สำหรับผู้ใช้วีลแชร์เข็นสบายในทุกจุด ตามภาพเลยค่ะ ^_^



ชั้นล่าง มาถึงก็เข็นเข้ามาที่โถงด้านล่าง

บรรยากาศที่โถงด้านล่าง

ทางลาดสะดวกตลอดทาง

อีกหนึ่งความสะดวก ที่เป็นไฮไลท์ ก็คือลิฟท์สำหรับผู้ใช้วีลแชร์ ที่จะสามารถขึ้นไปดูวิวด้านนอก เสียดายทีรถเข็นของคุณพ่อมีขนาดใหญ่เกินไป และยังต้องมีถังออกซิเจนด้วย จึงไม่สามารถขึ้นไปได้ และต้องขออภัยที่ไม่มีภาพมาให้ชมนะคะ



ลิฟท์สำหรับวีลแชร์
แม้คุณพ่อไม่ได้ขึ้นไปดูวิวด้านบน  แต่ก็มีความสุขดีค่ะ  ขอแนะนำชาววีลแชร์มาเที่ยวที่นี่ค่ะ  และขอให้มีความสุขกับการท่องเทียวค่ะ

















วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

เข็นคุณพ่อไปเที่ยวหัวหิน

เข็นคุณพ่อไปเที่ยวหัวหิน :)

อย่าลืมเก็บเกี่ยวเวลาแห่งความสุข สนุกสนานไว้มากๆนะคะ  ทริปนี้เราได้เข็นคุณพ่อ ไปเที่ยวด้วยกันส่งท้ายก่อนที่คุณพ่อจะถูกเจาะคอใส่ช่วยหายใจค่ะ   วันนี้คงไปเที่ยวสนุกแบบนี้ไม่ไหว  แต่จะไม่ยอมให้คุณพ่ออยู่บ้านจนเฉาอย่างแน่นอน  ตอนนี้ยังคิดอยู่ และเชื่อว่าทำได้แน่ๆ แต่จะทำอย่างไรได้บ้าง  ไว้จะมาแชร์ให้ฟังอีกทีนะคะ

ส่วนวันนี้ขอแชร์สถานที่เที่ยวที่เป็นมิตรกับผู้ใช้วีลแชร์ในชะอำ และหัวหินกันค่ะ  




เริ่มต้นจากชะอำ ทางผ่านเข้าหัวหิน  มีที่เที่ยวที่สวยเก๋ ที่ห้ามพลาดนั่นคือ "คาเมล รีพับบลิค Came Republic" แม้ไม่ใหญ่นัก  แต่ดีไซน์สไตล์แขกก็เก๋ไม่เบา แถมมีทางลาดทุกที่ สะดวกสุดๆเลยค่ะ  





คุณพ่่อเอ็นจอยกับการดูเครื่องเล่น และมุมสวนสัตว์ของที่นี่มากๆค่ะ ที่ชอบดูมากเห็นจะเป็นเครื่องเล่นที่เหวี่ยงแบบ 360 องศา ถ้ายังหนุ่มอยู่คงได้ไปเล่นแน่ๆ    ที่นี่มีอัลปาก้าด้วยนะคะ มีแววตาช่างสงสัย ตาตี่  คอยาว น่ารักสุดๆไปเลย!  

และที่เด็ดมากๆ คือ ที่นี่มีส่วนลดให้กับเด็ก และผู้สูงอายุ (เกิน 60 ปี) ด้วยนะคะ  ลดตั้งครึ่งราคาแน่ะค่ะ จาก 120 บาท เหลือเพียง 60 บาท เท่านั้นเอง  แฮปปี้



สนุกกันไปแล้ว ก็เดินทางต่ออีกเล็กน้อยก็ถึงหัวหิน   คราวนี้ โรงแรมที่ขอบอกต่อ คือ 
"โรงแรมฮิลตันหัวหิน" เป็นโรงแรมที่เหมาะกับผู้ใช้วีลแชร์เป็นอย่างยิ่ง   มีทางลาดตั้งแต่ทางเข้า และตลอดทั่วทั้งโรงแรม  แม้แต่ในห้องอาหารยังมีทางลาดใหญ่เป็นพิเศษอีกต่างหาก    

ที่สำคัญพนักงานที่นี่ ดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างดีค่ะ  เห็นเราเข็นคุณพ่อไปไหน จะมีคนคอยถามและช่วยเหลือตลอดเลยล่ะค่ะ    

มีโอกาสถ่ายภาพแค่ภาพแรกที่โพสไว้ด้านบน  ที่เหลือมัวแต่สนุกกับการเข็นคุณพ่อ และเม้าท์อยู่ค่ะ  ขอโทษที่ไม่มีภาพมาฝากนะคะ

สนุกกับการเดินทาง และมีความสุขในทุกๆวัน นะคะ :)













วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แนะนำโรงแรมสำหรับวีลแชร์ ตอน 2

โรงแรมที่ 2 นี้ ฮิปและเก๋มากค่ะ  ตั้งอยู่ที่พัทยา นาเกลือ ซ. 12  ซอยเดียวกับปราสาทสัจธรรม   เข้ามาตามป้ายปราสาทสัจธรรม และ เลยมาจนสุดทางค่ะ  โรงแรมตั้งอยู่สุดทางจริงๆ ชื่อว่า "เซ็นทารา แกรนด์ โมดัส"  (Centara Grand Modus)    



ได้ยินมาว่าโรงแรมแห่งนี้มีเจ้าของเป็นถึงนักออกแบบ  แม้ว่าจะขนาดเล็กสักหน่อย แต่ดีไซน์สวยเก๋ และสะดวกสำหรับผู้ใช้วีลแชร์มาก แถมยังติดทะเลอีกด้วยล่ะค่ะ   พนักงานโรงแรมใจดีจัดห้องคอนเน็คติ้งรูม  ที่เปิดเชื่อมกันได้ให้เราอีกแล้วค่ะ  จะได้ช่วยกันดูแลคุณพ่อได้สะดวกขึ้น ห้องพักทุกห้องได้ชมวิวทะเล ด้านตรงเต็มๆเลยค่ะ ไม่เหมือนกับโรงแรมหลายแห่งที่เห็นวิวจากด้านข้างเท่านั้น  ปลื้มค่ะ

เชิญชมภาพกันดีกว่าค่ะ ว่าสวยเก๋ขนาดไหน
นี่เป็นภาพที่เห็นจากระเบียงห้องที่กว้าง มีที่นั่งใหญ่ให้ดูวิวสวยทั้งวัน เรือนกระจะคือฟิตเนสติดทะเล


วิวจากมุมตรง สวยเต็มๆไปเลย


บรรยากาศและการตกแต่งห้อง เตียงใหญ่นอนสบาย















ห้องน้ำแคบหน่อย พกเก้าอี้มาใช้ในห้องอาบน้ำด้วยนะคะ
ทางเดินที่เรียบ พร้อมทางลาดทั่วโรงแรม
ลิฟท์เก๋ พื้นลาดเรียบเข้าออกง่าย  ทางเดินก็กว้างสะดวกเข็น
ความสวยเก๋ และสะดวก ครอบคลุมถึงห้องน้ำที่โถงทางเดิน
เรียกว่าโรงแรมนี้ตอบโจทย์ความต้องการของการท่องเที่ยวแบบครอบครัวจริงๆค่ะ  เข็นวีลแชร์พาผู้ใหญ่เที่ยวก็สะดวก  มากับเด็กน้อยก็สนุกนะคะ  มีสระว่ายน้ำหลายสระ  แถมยังมีสระเด็กใหญ่ด้วยล่ะค่ะ  อ้อ! มีสระจากุซซี่ กว้างขวางอีกด้วยนะคะ

ปิดท้าย ขอให้คะแนนส่วนตัวสำหรับ เซ็นทารา แกรนด์ โมดัส แบบ 10/10 ไปเลยค่ะ  สำหรับตอนหน้า ขออนุญาติปิดตอนการรีวิวโรงแรมในพัทยา ด้วยโรงแรมที่ไม่แนะนำสำหรับผู้ใช้วีลแชร์กันบ้างนะคะ


วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แนะนำโรงแรมสำหรับวีลแชร์ ที่พัทยา #1

หลายครั้งที่การเลือกโรงแรมเป็นเรื่องยากสักหน่อย  เพราะต้องคำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้วีลแชร์ด้วย วันนี้เลยถือโอกาสแนะนำโรงแรมที่พัทยา ที่ครอบครัวเราอยากติดดาวเพิ่มให้ กับโรงแรมที่อยากส่งสัญญาณให้ระวังค่ะ  

โดยมากแล้ว โรงแรมใหญ่ๆจะมีการออกแบบที่อำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้วีลแชร์มากกว่าโรงแรมเล็ก แต่ถึงอย่างนั้น ก็อาจมีบางจุดที่ยังไม่มีทางลาด  ยกตัวอย่างเช่น

1. โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้ จอมเทียน พัทยา

โรงแรมนี้เป็นโรงแรมใหญ่ มีชื่อเสียงมานาน ตั้งอยู่ที่หาดจอมเทียน เลยพัทยาใต้ไปอีกหน่อยค่ะ  บางส่วนอาจดูเชยๆเล็กน้อย แต่โรงแรมก็มีการปรับปรุงต่อเนื่อง ทำให้ไม่ดูเก่าหรือโทรม พร้อมมีพื้นที่กว้าง และติดหน้าหาด สามารถเข็นวีลแชร์เที่ยวชมจุดต่างๆ เพื่อเดินเล่นและชมวิว แก้เบื่อได้  รวมทั้งมีร้านกาแฟ และร้านอาหารยุโรปเก๋ๆ ก่อนทางไปหาด ให้นั่งเล่นรับลมได้ชิลล์ค่ะ

ครอบครัวเราเลือกพักที่ตึกหลัก ซึ่งก็คือตึก โอเชี่ยนวิงค์ค่ะ ด้วยความคุ้นเคยและความสะดวกค่ะ มีลิฟท์แก้วหลายตัวทำให้ไม่ต้องรอนาน  มีสระว่ายน้ำ  ห้องอาหาร และลิฟท์ไปยังชั้นล่างที่หาดได้โดยตรง ที่สำคัญเราสามารถขอเป็นห้องคอนเน็กซ์ติ้งรูม (เชื่อมต่อสองห้อง) ได้ ซึ่งทำให้สะดวกต่อการดูแลคุณพ่อคุณแม่ได้ง่ายขึ้นมากค่ะ

เชิญชมภาพบรรยากาศของโรงแรมกันค่ะ

วิวจากห้องพัก ชิลล์ๆแบบไม่ต้องไปไหน ชมวิวจากระเบียงได้เลย
เข็นคุณพ่อมาชมวิวได้สุดขอบระเบียง ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ ชมวิวหนุ่มสาวระยะใกล้สุดๆ

ลงลิฟท์และเข็นวีลแชร์มาทานกาแฟรับลมค่ะ  ร้านเก๋ๆลมเย็นๆ

มุมด้านนอกของร้านกาแฟ ร้านด้านข้างขายพิซซ่าค่ะ

ทางเท้าที่เรียบ และกว้าง เข็นวีลแชร์ได้สะดวก

ทางลาดตามทางเดินแสนสะดวก
ตอนเย็นๆ จะมีบริการอาหารเย็นแบบเป็นซุ้ม ในบริเวณลานกว้าง (ใกล้กับทางเดินตามภาพด้านบน) ซึ่งสามารถเข็นวีลแชร์มาร่วมสนุก ทานอาหารได้สบายๆค่ะ  ประเภทอาหารจะมีการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ไปเรื่อยๆนะคะ  

ในขณะมีข้อดีมาก ก็มีข้อเสียอยู่เล็กน้อยค่ะ น่าเสียดายที่ห้องอาหารสำหรับอาหารเช้าของแขก  เป็นบันไดประมาณ 5 ขั้น  และไม่มีทางลาดให้เข็นวีลแชร์ได้  ทำให้เราต้องพยุงคุณพ่อออกกำลังเดินขึ้น และแบกวีลแชร์ขึ้นมาตามค่ะ  ถ้าทางโรงแรมทำทางลาดที่จุดนี้  จะดีเลิศเหมาะกับผู้ใช้วีลแชร์ และผู้สูงอายุเป็นอย่างมากเลยค่ะ (ซึ่งน่าจะทำได้สบายๆ เพราะมีบันไดขึ้นห้องอาหารหลายจุด และแต่ละบันไดก็กว้างมากด้วย)

สรุปเป็นคะแนน สำหรับความเหมาะสมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีวีลแชร์  โดยรวมได้คะแนน 8/10 ค่ะ  แล้วมาติดตามอ่านโรงแรมต่อไปในพัทยาอีกนะคะ 

เอาวีลแชร์ไปชมรถโบราณ ที่เจษฎาเทคนิคมิวเซียม

ชอบรถโบราณกันมั้ยคะ?  ทริปนี้เราจะเข็นวีลแชร์ไปชมรถโบราณกัน ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลยค่ะ  แค่นครปฐมเอง ประมาณ 1 ชม. เศษๆ ก็ถึงแล้วล่ะค่ะ    ทางไปก็ซับซ้อนเล็กน้อยหากไปทางแม่น้ำนครชัยศรี  แต่นับว่าไม่ยากนะคะ  เพราะทุกทางแยกจะมีป้ายไปเจษฎาเทคนิคมิวเซียมตลอดทางค่ะ  แต่ป้ายอาจจะเล็กสักหน่อย คอยสังเกตุกันดีๆนะคะ

แผนที่ไปเจษฎาเทคนิคมิวเซียม จากเว็บของทางมิวเซียมค่ะ
มาถึงที่มิวเซียมก็แวะเข้ามาจอดด้านหน้าส่งคุณแม่ และคุณพ่อ พร้อมวีลแชร์คู่ใจก่อน  แล้วค่อยจอดรถที่ริมถนนด้านหน้า  ที่นี่ไม่มีการเก็บค่าเข้าชมนะคะ  เพียงแต่ต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนก่อนค่ะ  ให้ข้อมูลคนเดียวสำหรับทั้งกลุ่มได้เลยค่ะ

สำหรับผู้ใช้วีลแชร์ โดยภาพรวม สามารถเยี่ยมชมได้ประมาณ 60% ของพื้นที่ค่ะ  ถึงแม้ว่ามิวเซียมจะมีเพียงชั้นเดียว และไม่มีขั้นหรือขอบแต่อย่างใด  แต่พื้นที่บางโซนมีการจัดวางรถโบราณแบบแน่นเอียด จึงมีช่องว่างไม่พอให้รถวีลแชร์สามารถเข็นผ่านไปได้ค่ะ

แต่ยังไงก็ขอแนะนำให้มานะคะ  ส่วนที่เข้าถึงได้ก็นับว่ามีรถโบราณหลากหลายเก๋ไก๋ คุ้มค่าต่อการชมอยู่แล้วค่ะ  โซนไหนเข้าไม่ถึงจริงๆก็ชะโงกทัวร์เล็กน้อยค่ะ อิอิ

ขบวนรถหัวแถวทางเดิน ต้อนรับแขกด้วยความสดใส 

ทางเดินที่กว้างในช่วงต้น เข็นวีลแชร์ชมได้สบายๆ

โซนด้านหลัง ทางเดินแคบ ตอนท้ายวีลแชร์เข้าไม่ถึง


โซนนี้เข็นวีลแชร์เข้าถึง สนุกไม่น้อย

ที่มิวเซียมนี้หยุดเฉพาะวันอาทิตย์และวันจันทร์  เปิดบริการให้ชมตั้งแต่ 9:00 - 16:00 น. นะคะ  สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม  สามารถอ่านได้ที่ www.jesadatechnikmuseum.com/ หรือ โทร +66 (0) 2819 4000 นะคะ  มีความสุขกับการท่องเที่ยวอย่าให้วีลแชร์เป็นอุปสรรคนะคะ :)

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557

พัทยา สนุกไม่ซ้ำ ที่เที่ยวใหม่เพียบ ตอน 1

พัทยา น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มาบ่อยเป็นอันดับต้นๆตั้งแต่เด็กๆ  แต่พอนึกถึงการท่องเที่ยววันนี้ที่ต้องเข็นวีลแชร์พาคุณพ่อเที่ยว ที่คิดว่ายากกลับไม่ยากเลย เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆในพัทยาเพิ่มมากขึ้น  และมีหลายแห่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงวัย และผู้ใช้รถเข็น การเที่ยวพัทยาก็เลยมีโปรแกรมแปลกใหม่ได้อีกค่ะ

โปรแกรมเที่ยวมีให้เลือกเยอะ แต่ขออนุญาติแนะนำให้มาเที่ยวพัทยาสัก 2 วัน 1 คืน กำลังดี ไม่มีเวลาเหงา  เพราะพัทยามาง่ายๆ ไม่ต้องรีบเที่ยวครั้งเดียวหมด แต่มาบ่อยๆแทนก็สนุกนะคะ  ยิ่งถ้ามากับผู้สูงวัยด้วยแล้ว ควรเที่ยวไปพักไปแบบสบายๆค่ะ

ตอนที่ 1 มีไฮไลท์ 2 แห่ง ที่ขอแนะนำ นั่นคือ Mimosa น่ารักๆแบบเมืองเล็กๆในอิตาลี และ อลังการโชว์ ที่ดูได้เพลินๆแบบไทยๆ ต่างจากสไตล์ทิฟฟานี่ที่อาจไม่เหมาะกับผู้ใหญ่ ที่รักสงบเท่าไรนัก

Mimosa จำลองเมืองเล็กๆในอิตาลี มายังจอมเทียน พัทยา

การเดินทางมามิโมซ่าไม่ยากเลยล่ะค่ะ  ตั้งอยู่ที่จอมเทียน พัทยาใต้  เยื้องกับโรงแรมแอมบาสเดอร์ จอมเทียนค่ะ พอเลี้ยวรถเข้ามาในที่จอดรถ จะเห็นบู้ทขายบัตรอยู่ตรงทางเข้า ถ้ามีผู้ใช้รถเข็น เราสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนยื่นบัตรผ่าน เพื่อให้เปิดทางเข้าสำหรับเข็นวีลแชร์ผ่านเข้าไปได้ สบายๆเลยค่ะ บรรยากาศของสถานที่น่ารักมากๆ เหมาะกับการถ่ายรูป และตลอดทางก็เป็นทางลาด สะดวกต่อการเข็นมากค่ะ  ที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10:00 ถึง 22:00 น.นะคะ  ส่วนค่าบัตรเข้าชมก็คนละ 150 บาทค่ะ

มีภาพสวยๆบางส่วนมาฝากค่ะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านต่อไปที่  http://www.mimosa-pattaya.com/ 
มุมร้านกาแฟน่ารักๆแบบอิตาลี

ทางลาดให้เข็นชมบรรยากาศ (แต่ถ้าชมร้านค้าระยะใกล้จะติดขอบนะคะ)


ชม อลังการ โชว์ ที่จอมเทียน

ก่อนอื่นต้องออกตัวขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาอวดเลยค่ะ  เพราะไปสายจะเริ่มโชว์แล้ว และต้องเข็นวีลแชร์คุณพ่อ กับประสานงานเจ้าหน้าที่ จนไม่มีเวลาถ่ายภาพ  แต่เพราะประทับใจหลายอย่างที่นี่ จึงต้องขอบอกเล่าจากประสบการณ์จริงล้วนๆค่ะ

จากมิโมซ่า มาอลังการ เป็นเส้นทางเดียวกันพอดีค่ะ  เพราะอยู่ที่จอมเทียนเหมือนกัน  แต่ต้องเลยมาพอสมควร อลังการตั้งอยู่บนสถานที่กว้างใหญ่มาก  แต่ก็สะดวกกับการใช้วีลแชร์มากเช่นกัน เพราะมีการทำทางลาดไว้หมด  พร้อมกับมีวีลแชร์เตรียมพร้อมให้บริการอีกด้วยในกรณีที่ไม่ได้เตรียมมาเอง    ตอนที่เราไปเที่ยวกัน มีวีลแชร์เฉพาะของคุณพ่อ  ส่วนคุณแม่พอเดินไหวตอนขาเข้า และได้ใช้บริการวีลแชร์ตอนขาออก เพราะสถานที่กว้างใหญ่เกินการเดินของผู้สว.  ถ้ามีเคสจำเป็นนี้ก็ไม่ยากนะคะ  เพราะมีวีลแชร์มีเตรียมพร้อมรอไว้ที่หลังประตูโถงอาคารการแสดงค่ะ

โชว์ก็สนุกและอลังการสมชื่อ ใครที่เคยชมสยามนิรมิตร ก็ต้องบอกว่าอลังการไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น  แต่เป็นแนวเดียวกัน  ยิ่งใหญ่แบบน้องๆค่ะ  สนุกและสวยงามประทับใจ อ้อ!  เนื่องจากมีคุณพ่อซึ่งนั่งวีลแชร์ไปด้วย  ทางเจ้าหน้าที่ก็จัดเตรียมที่นั่งให้เราเป็นพิเศษอีกด้วยค่ะ

อลังการมีการแสดงทุกวัน ยกเว้นวันพุธ  ตอน 18:00 น.ค่ะ  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อ่านรายละเอียดได้ที่
http://www.alangkarnthailand.com/main.htm นะคะ


สนุกทริปนี้ที่พัทยาแล้ว รอบหน้ามาพัทยาใหม่ ลองตามมาดูไอเดียเพิ่มจากตอน 2 สำหรับที่เที่ยวสนุก
ด้วยวีลแชร์กันอีกนะคะ

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557

เข็นวีลแชร์ชิลล์ๆ ที่ตลาดน้ำขวัญเรียม

คุณพ่อผู้ใช้วีลแชร์แนะนำว่า ทริปที่ควรแชร์คือ "ตลาดน้ำขวัญเรียม" เพราะได้สัมผัสบรรยากาศตลาดน้ำได้อย่างสะดวกสบายจริงๆ  ตอบโจทย์ทั้งคุณแม่ที่ชอบช้อปปิ้งอีกด้วยล่ะค่ะ

เอกลักษณ์อย่างนึงที่เก๋ มากๆของที่นี่คือ มีตลาดอยู่ทั้งสองฝั่งของคลองแสนแสบ คือที่วัดบำเพ็ญเหนือเสรีไทย 60 และ วัดบางเพ็งใต้รามคำแหง 187  โดยมีสะพานไม้เชื่อมไว้  ทำให้ผู้มาเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศและสนุกกับการช้อป เหมือนได้ชิมและช้อปท้้งสองตลาดในคราวเดียวค่ะ


ทีตลาดขวัญเรียมแห่งนี้ ได้ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้วีลแชร์โดยเฉพาะ  ทุกที่จะมีทางลาดไว้เสมอ รวมถึงห้องน้ำที่แยกออกมาเป็นสัดส่วน  และที่ปลื้มมากคือ "ลิฟท์" ที่อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ที่ต้องการข้ามสะพานไป-กลับจากตลาดฝั่งตรงข้าม ซึ่งให้บริการอยู่ที่ด้านข้างของสะพานทั้งสองฝั่งค่ะ และไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดนะคะ  


มีความสุขกับการชิม ชม ช้อปกันมากๆนะคะ


(อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.kwan-riamfloatingmarket.com/)

วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ไปเที่ยว "อยุธยา" กันมั้ยคะ?

WheelShare ทริป 3: เข็นวีลแชร์ไปชิลล์ที่ "อยุธยา"

มาเที่ยวอยุธยา คิดถึงอะไรกันบ้างคะ  เชื่อว่ามี "กุ้งแม่น้ำ" อยู่ด้วยแน่ๆ  งั้นเรามาเริ่มจากร้านอาหารที่เฟรนด์ลี่กับผู้ใช้วีลแชร์กันดีกว่าค่ะ  ซึ่งร้านที่ขอแนะนำคือ "ร้านต้นน้ำ ริเวอร์วิว อยุธยา" ค่ะ


ร้านต้นน้ำได้ทำทางลาดไว้เรียบร้อยดี  แม้ว่าจะไปได้ไม่ถึงโซนเรือก็ตาม แต่ก็ไม่เลวทีเดียว อาหารอร่อยอากาศดี  กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่มากกกจริงๆ  เสียแต่ห้องน้ำยังไม่มีทางลาดให้เข็น จึงต้องให้คุณพ่อออกแรงเดินเล็กน้อยค่ะ




ทานอาหารอิ่มแล้วก็ได้เวลาเที่ยวต่อ  ซึ่งไม่ไกลจากร้านต้นน้ำเลย  -ขับรถตรงไปตามทางเพียง 1 กม.โดยประมาณ  เราก็จะมาถึง "พระราชวังบางประอิน" กันแล้วล่ะค่ะ

ที่พระราชวังบางประอินกว้างใหญ่มาก  ถ้าเข็นวีลแชร์ก็คงเหนื่อยกันหน่อยแต่ก็เป็นไปได้อยู่ค่ะ  ถ้าพอเดินได้เล็กน้อย แนะนำให้เช่ารถกอล์ฟค่ะ โดยเราจะต้องขับเองนะคะ  ก็จะได้วนดูบรรยากาศโดยรอบกันค่ะ




สำหรับหนุ่มๆสาวๆที่จะมาอย่าใส่เสื้อแขนกุด หรือกางเกง/กระโปรงสั้นกว่าเข่านะคะ  เท่านี้ก็เที่ยวได้สะดวกสบายใจกันแล้วค่ะ  เที่ยวกันอย่างแฮปปี้นะคะ




WheelShare ทริป2.2 : สัตว์โลกน่ารัก ณ Siam OceanWorld

WheelShare ทริป2.2 : สัตว์โลกน่ารัก ณ Siam OceanWorld

ภาคต่อของการท่องเที่ยวด้วยวีลแชร์เยี่ยมชมสัตว์โลกน่ารัก  คราวนี้มาในแบบโลกใต้น้ำกันค่ะ  สยามโอเชียนเวิลด์ ตั้งอยู่ที่ห้างพารากอน ซึ่งเหมือนจะง่าย แต่บอกได้เลยว่า การหาลิฟท์เพื่อเข็นวีลแชร์ไม่ง่ายเลย  ไม่มีลิฟท์ไปที่สยามโอเชียนฯตรงจากที่จอดรถนะคะ  คุณรปภก็ไม่ทราบจึงไม่สามารถแนะนำได้เลย

หลังจะพาคุณพ่อสละวีลแชร์ และพยุงท่านขึ้นบันไดเลื่อนลงมา ก็ได้พบว่ามีลิฟท์เดียวที่มาตรงที่นี่ได้เลย นั่นคือ "ลิฟท์แก้ว" ด้านหน้าห้างเท่านั้นค่ะ  นับว่ายังดีที่มีนะคะ  เลยต้องขอบอกต่อไว้ดังๆตรงนี้ซะหน่อย 

คิวค่อนข้างยาวนะคะ กว่าจะซื้อบัตรได้ ปกติเค้าจะให้ทุกคนเข้าคิวทั้งกลุ่มพอซื้อบัตรได้ จะได้เดินผ่านเข้าไปเลย แต่ในกรณีมีวีลแชร์ เราก็เลยวิสาสะขอให้น้องชายดูแลคุณพ่ออยู่ด้านนอกแถว ซึ่งสตาฟก็อนุญาติให้ทำได้ค่ะ  พอถึงคิวก็ให้สัญญานน้องเข็นพาคุณพ่อเข้ามาเลย  ซึ่งสตาฟจะให้เข็นผ่านช่องทางด้านซ้ายสุดซึ่งจะใหญ่กว่าช่องผ่านซื้อตั๋วตรงกลางค่ะ

ด้านในเยี่ยมชมน้องๆปลาใต้น้ำได้ตามอัธยาศัย  เข็นได้ชิลเลยค่ะ  ยกเว้นสะพานบางช่วงซึ่งค่อนข้างชัน ถ้ารถวีลแชร์ไม่มีเบรคมือ ก็ต้องอาศัยรองเท้าเหมาะๆและแรงดีๆของคนเข็นซะหน่อยล่ะค่ะ แต่ยังไม่นับว่ายากจนเกินไปค่ะ  คุ้มค่ากับความสวยของที่นี่ 



พอเยี่ยมชมจนครบแล้ว ตรงทางออกจะมีบันไดเลื่อนขึ้นไปหนึ่งชั้น (กลับไปชั้นเดิมที่เราเข้ามา) และจะมี ลิฟท์สตาฟอยู่ข้างๆ ซึ่งเราเข็นวีลแชร์เข้าไปใช้บริการได้ค่ะ   แต่มีคำแนะนำก่อนขึ้นด้านบนเพื่อออกไปสักหน่อยค่ะ  ใกล้ๆลิฟท์มีห้องน้ำอยู่นะคะ ที่สำคัญมีห้องน้ำเฉพาะสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ด้วยค่ะ น่าปลื้มตรงนี้ เพราะไม่ใช่ทุกที่จะมีนี่ค่ะ  

เสร็จธุระแล้ว ขึ้นลิฟท์ไปเจอกับร้านขายของที่ระลึกค่ะ  และเป็นทางออกไปด้านนอก เพื่อไปลิฟท์แก้วต่อไปค่ะ  

ถ้าชอบโลกใต้น้ำก็ต้องที่นี่แล้วล่ะค่ะ ไม่แพ้ที่ไหนๆทั้งสิงคโปร์ หรือ ญี่ปุ่น แน่นอนค่ะ  คอนเฟิร์ม!




WheelShare ทริป2.1 : สัตว์โลกน่ารัก ณ Safari World

ใครว่าสวนสัตว์เป็นที่ของเด็กเท่านั้น  คิดผิดคงต้องคิดใหม่ละค่ะ  จากประสบการณ์เข็นวีลแชร์พาคุณพ่อและคุณแม่เที่ยวพบว่า สวนสัตว์เหมาะกับการท่องเที่ยวกับคนทุกวัยจริงๆค่ะ

WheelShare ทริป2.1 : สัตว์โลกน่ารัก ณ Safari World

เนื่องจากคอนเซ็ปต์หลักของซาฟารีเวิลด์ เป็นการขับรถชมสัตว์หลากชนิดอย่างใกล้ชิด จึงเป็นเรื่องที่เหมาะมากๆกับผู้ใหญ่ที่เดินไม่ค่อยถนัด หรือผู้ใช้วีลแชร์เป็นอย่างยิ่ง น้องๆบางตัวก็มาทักทายเราอย่างใกล้มากซะด้วย แม้จะดูผอมเพียวกันไปหน่อยหลังน้ำท่วมใหญ่ครั้งก่อน แต่ก็ได้เอ็นจอยกันมากแบบไม่ต้องเหนื่อยเลยค่ะ




พอขับวนจนครบโซนนี้แล้ว ก็ได้เวลาไปดูโชว์กัน อย่าลืมส่งผู้ใช้วีลแชร์ ผู้ใหญ่และเด็กตัวน้อยที่มาด้วยที่ด้านหน้าก่อน เพราะที่จอดรถต้องเดินฝ่าแดดไปอีกค่ะ  ทีนี้ก็ง่ายแล้วค่ะ ถ้าเอาวีลแชร์มาด้วยก็เข็นได้โลดเลยค่ะ มีทางลาดให้เข็นได้ตลอด แต่ถ้าไม่ได้เอามา ก็มีวีลแชร์ และรถเข็นเด็ก (รูปสัตว์น่ารักๆ) ไว้ให้เช่าด้วยค่ะ (ต้องขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายภาพมา และจำค่าบริการไม่ได้นะคะ ไว้ขอไปเที่ยวซ่อมแก้ตัวใหม่อีกทีค่ะ)

ตารางโชว์เป็นเรื่องสำคัญเลยค่ะ เพราะต้องวางแผนไปให้ถูกทางค่ะ และจะให้ดีเราต้องไปก่อนเวลาสัก 5-10นาทีนะคะ เพื่อความสะดวกในการเข็นไป (ไม่ต้องเบียดกับคนอื่นๆค่ะ) สำหรับโชว์ที่พลาดไม่ได้คือ โชว์โลมา และโชว์สตันท์ ได้ชมแค่สองอย่างนี้ก็คุ้มสุดๆแล้วค่ะ  สตาฟที่นี่ก็น่ารักกันมากค่ะ พอเข็นมาที่ดูโชว์ก็แจ้งว่าขอเข็นวีลแชร์ไป เค้าจะพาเราไปในจุดที่ดูได้จากวีลแชร์ค่ะ ซึ่งก็ใกล้กับเวทีค่ะ 




ไม่มีอะไรจะแฮปปี้ มากเท่าเห็นรอยยิ้มจากคนที่เรารักแล้วค่ะ ว่ามั้ยคะ  ลองมากันนะคะ แฮปปี้ค่ะ บอกเลย!  

แล้วตามไปเที่ยวดูสัตว์โลกน่ารักภาค2 กันที่ Siam Ocean World กันด้วยนะคะ 




เข็นวีลแชร์ไปเที่ยวเขาใหญ่

ถ้ารักจะเที่ยวซะอย่าง อะไรก็เป็นอุปสรรคของเราไม่ได้  นอกจากจะเที่ยวเองบ้างในบางครั้ง ตอนนี้สิ่งที่อยากทำให้มากที่สุดคือการพาคุณพ่อและคุณแม่เที่ยวให้มากที่สุด  โดยเฉพาะคุณพ่อซึ่งชอบการท่องเที่ยว แต่เพราะป่วยต้องนั่งรถเข็น ไม่ค่อยมีแรงช่วยตัวเอง  แต่เราก็ยอมให้รถเข็นเป็นอุปสรรคการท่องเที่ยว และความสุขของเราไม่ได้  ก็จะเที่ยวซะอย่างนี่นา

ว่าแล้วเราก็ต้องหาข้อมูลสถานที่่ท่องเที่ยวที่เหมาะสมก่อน ซึ่งข้อมูลก็หาไม่ได้ง่ายๆ โทรถามกันซื่อๆบ้าง บุกลุยกันถึงที่ ลองผิดลองถูกกันบ้าง  เลยถือโอกาสเขียนบล็อกมาแชร์กับนักท่องเที่ยวที่มีความจำเป็นคล้ายๆกัน เผื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการสร้างความสุขกับคนที่เรารัก แบบไม่ต้องแคร์อุปสรรคจากวีลแชร์กันค่ะ

WheelShare ทริป 1:  ดาษดาแกลอรี่ เขาใหญ่

เริ่มจากทริปใกล้กรุงเทพฯ  เราบุกไปดูสวนดอกไม้กันที่ดาษดา เขาใหญ่กันค่ะ


ใครเดินทางพร้อมผู้ใช้วีลแชร์ สามารถแจ้งที่ตู้จำหน่ายบัตรเข้าชม และขอนำรถผ่านเข้ามาส่งถึงด้านในตรงหน้าเข้าเลย  ซึ่งพอส่งเรียบร้อยค่อยนำรถไปจอดด้านนอกค่ะ

ดาษดาแกลอรี่ เต็มไปด้วยดอกไม้สวยๆ และการตกแต่งน่ารักในมุมต่างๆสำหรับคนรักการถ่ายภาพ พร้อมมีทางลาดเตรียมไว้ทุกที่ เหมาะสำหรับพาผู้ใหญ่และผู้ใช้วีลแชร์มากๆ  แม้กระทั่งทางเข้าห้องน้ำ ยังมีทางลาดพร้อมดีไซน์เก๋ๆอีกด้วย  ทริปนี้แฮปปี้ทั้งคุณพ่อคุณแม่กันไปเลย

ชมดอกไม้เสร็จแล้วท้องก็ร้องพอดี  ซึ่งก็ไม่ต้องไปไหนไกลเลยค่ะ  ขึ้นรถแล้วเลี้ยวเข้าประตูถ้ดไปในโซนรีสอร์ต มีร้านอาหารไทยต้ั้งอยู่บนเนินเขา ถ้าจำไม่ผิดชื่อ Bloom ค่ะ  แล้วอย่าเพิ่งใจร้อนอุ้มหรือให้ผู้ใหญ่สละวีลแชร์เพื่อเดินขึ้นนะคะ  ทางร้านมีทางลาดตลอด เพียงแต่จะซับซ้อนพอสมควร  บางช่วงจะต้องเข็นผ่านห้องด้านหลังด้วย จะให้ดีต้องขึ้นไปด้านบนจับจองที่นั่งพร้อมสอบถามพนักงานก่อนนะคะ แล้วค่อยให้เค้าพาเข็นขึ้นไปได้เรื่อยๆเลยค่ะ

ทานอาหารเสร็จมีเซอร์ไพร์สเล็กๆที่แสนภูมิใจด้วยล่ะค่ะ  ทางร้านเตรียมช่อดอกไม้เล็กๆไว้ให้สาวๆ (สาวใหญ่สาวน้อยได้หมด)ก่อนออกจากร้านด้วย

เที่ยวแล้วอิ่มแล้ว เดินทางกลับบ้านเข้ากรุงเทพฯ แวะช้อปขนมและของฝากที่ร้านขนมตั้งเซ่งจั้ว ฉะเชิงเทรา นอกจากร้านตกแต่งแบบจีนๆ น่าถ่ายรูปแล้ว ยังเหมาะกับการเข็นอีกแล้วค่ะ  มีทางลาดเข็นคุณพ่อไปร่วมช้อป หรือแม้แต่ทางเข้าห้องน้ำก็ยังมีทางลาดอีกต่างหาก ปลื้มแทนคุณพ่อค่ะ

จบทริปนี้เต็มอิ่มไปด้วยรอยยิ้มกับความสุขกันทุกคน จนต้องยกให้เป็นนัมเบอร์วันของทริปวีลแชร์ที่ต้องแชร์ต่อค่ะ

(ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม http://www.dasada-happiness.com)