วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

การติดตั้งออกซิเจนหลังวีลแชร์ และในรถยนต์

ปัญหาหลักอีกอย่างในการพาผู้ป่วยนั่งรถวีลแชร์เที่ยว ก็คือ จะหาวิธีการติดอ็อกซิเจนหลังรถเข็นวีลแชร์ และในรถยนต์ ได้อย่างไร

เนื่องจากคุณพ่อจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ  (ผ่านท่อที่เจาะคอ) ควบคู่กับอ็อกซิเจน  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาวิธีที่จะนำอุปกรณ์จำเป็นทั้งหมดพกติดตัวไปด้วยให้ได้  เพื่อจะได้พาคุณพ่อออกจากบ้าน นั่งรถเล่น และเข็นวีลแชร์พาคุณพ่อเที่ยว ได้เช่นเดิม

หลังจากที่พยายามหาข้อมูล ได้พบว่าหากใช้เครื่องผลิตอ็อกซิเจนติดรถยนต์แบบเสียบชาร์ตไฟรถได้นั้น  แม้จะเป็นของจากประเทศจีน  ราคาสูงถึงเกือบหนึ่งแสนบาท  แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเครื่องผลิตอ็อกซเจนที่ใช้ภายในบ้าน  ซึ่งราคาอยู่ที่ 1หมื่นปลายๆหรือ 2หมื่นเท่านั้น

แต่ผู้เขียนโชคดีที่เห็นรถคันอื่นที่มาส่งผู้ป่วยที่รพ.เดียวกับพ่อ  เค้าใช้ถังอ็อกซิเจนมายึดไว้ตรงกลางรถ หลังเบาะรถคู่หน้า   ซึ่งเราเลยนำไอเดียนี้มาใช้กับรถตัวเองดูบ้าง  โดยซื้อโครงเหล็กสำหรับเข็นมาด้วย  เพื่อประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นในกรณีนำมาใช้งานนอกรถเมื่อจำเป็น  รวมถึงโครงเหล็กของถังนี้ ยังช่วยเป็นที่ให้ผูกยึดกับเบาะที่นั่งได้มั่นคงขึ้นอีกด้วย




เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย  นับว่าประหยัดไปได้มาก ยกตัวอย่างเช่น ถังอ็อกซิเจนที่ขนาดความจุ 1.5 ลิตร  ความสูงรวมประมาณ  1 เมตร ราคาประมาณ 2,500บาท  โครงรถเข็น ประมาณ 1,200บาท  และชุดเกย์จ่ายอ็อกซิเจน ประมาณ 1,300 บาท  รวมๆก็ 5,000 บาท

ตามภาพด้านซ้าย มีสายรัดสินค้าทั่วไปที่นำมาใช้ยึกให้แน่นกับก้านพนักพิงศรีษะของเบาะที่นั่งด้านหน้า ทั้งซ้ายและขวา  ส่วนตระกร้าที่เห็นใส่ของแขวนด้านหลังเบาะนั่งคนขับ สำหรับใส่อุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ ของคุณพ่อค่ะ เช่นสายดูดเสมหะ  ซึ่งผู้เขียนจะขออนุญาตินำเสมอ สำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์นี้ให้ซื้อ เครื่องดูดเสมหะ ที่สามารถใช้กับไฟรถยนต์ได้ และมีแบตเตอร์รี่ในตัวนะคะ  จะได้นำไปใช้ในรถได้เลยค่ะ  (ตามภาพค่ะ)


ทีนี้เรามาดูวิธีติดตั้งกับด้านหลังรถเข็นวีลแชร์ แบบง่ายๆกันนะคะ  เราวัดระยะระหว่างก้านจับเข็นสองฝั่ง และไปขอซื้อเหล็กอลูมิเนียมจากร้านทำหลังคาและรั้วบ้านค่ะ พอนำมาวางระหว่างมือจับสองข้าง เราก็ได้ที่ยึดอุปกรณ์จำเป็นหลังรถเข็นวีลแชร์แล้วค่ะ  

สำหรับถังอ็อกซิเจนที่นำมายึดติดด้านหลังวีลแชร์  ควรมีน้ำหนักเบา  เพื่อความคล่องตัวในการเข็น  แต่ในขณะเดียวกันก็ควรมีความจุที่เพียงพอกับ ระยะเวลาในการเข็นรถเที่ยวด้วยนะคะ  เราเลยเลือกใช้ถังอ็อกซิเจนแบบอลูมิเนียม  ซึงมีราคาสูงกว่าถังเหล็กเท่าตัว  รุ่นที่เห็นตามภาพ เป็นขนาด 0.7 คิวค่ะ  ราคาประมาณ 4,000บาท  ถ้ารวมกับเกย์จ่ายอ็อกซิเจน และโครงเหล็กแขวน ก็ประมาณ 6-7พันบาทค่ะ (ขายในบางร้านที่ขายถังอ็อกซิเจน  ผู้เขียนซื้อทั้งชุดมาจาก ร้านส.สมบูรณ์อ็อกซิเจน ที่ถ.เจริญนคร ลองติดต่อสอบถามเส้นทาง หรือราคาที่โทร. 02-4370284ค่ะ

ส่วนกระเป๋าที่แขวนด้านข้างถังอ็อกซิเจน  ผู้เขียนสั่งเย็บพิเศษเพื่อนำมาวางเครื่องช่วยหายใจ (เจาะคอ)ของคุณพ่อด้วยค่ะ  ซึ่งก็ควรเป็นเครื่องที่มีแบตฯในตัวเช่นกันนะคะ  ของคุณพ่อเป็นเครื่องของ BREAS  รุ่นVivo40 ค่ะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ  หากต้องการข้อมูลใดเพิ่มเติม สามารถเขียนสอบถามได้นะคะ  ท้ายนี้ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวโดยปราศจากอุปสรรคนะคะ มีรอยยิ้มมาฝากค่ะ  ^_^











วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เข็นวีลแชร์มาเที่ยวมินิจีน ที่เล่งเน่ยยี่ 2

เข็นวีลแชร์มาเที่ยวมินิจีน ที่เล่งเน่ยยี่ 2

ช่วงหลังนี้คุณพ่อเที่ยวไม่ค่อยไหวค่ะ  เราเลยเลือกเข็นพาคุณพ่อเที่ยวใกล้ๆ ในกรุงเทพฯ  ที่เที่ยวล่าสุดที่ขอแนะนำสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ทุกท่าน คือ "วัดเล่งเน่ยยี่ 2" ที่บางบัวทองค่ะ

สำหรับทุกท่านที่ให้แอพฯหรือกูเกิลแมพนำทาง อาจต้องลองพิมพ์ชื่ออื่นๆดูด้วย อย่าง "วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์หรือ วัดมังกร2 นะคะ  ส่วนแผนที่ทางไปคร่าวๆ ตามนี้ค่ะ




พอมาถึงจะมีที่จอดรถอยู่ทั้งด้านซ้าย และขวาของวัดนะคะ สะดวกเหมือนกันทั้งสองด้านค่ะ  มาถึงก็ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าวัดค่ะ  สำหรับผู้ใช้วีลแชร์เข็นสบายในทุกจุด ตามภาพเลยค่ะ ^_^



ชั้นล่าง มาถึงก็เข็นเข้ามาที่โถงด้านล่าง

บรรยากาศที่โถงด้านล่าง

ทางลาดสะดวกตลอดทาง

อีกหนึ่งความสะดวก ที่เป็นไฮไลท์ ก็คือลิฟท์สำหรับผู้ใช้วีลแชร์ ที่จะสามารถขึ้นไปดูวิวด้านนอก เสียดายทีรถเข็นของคุณพ่อมีขนาดใหญ่เกินไป และยังต้องมีถังออกซิเจนด้วย จึงไม่สามารถขึ้นไปได้ และต้องขออภัยที่ไม่มีภาพมาให้ชมนะคะ



ลิฟท์สำหรับวีลแชร์
แม้คุณพ่อไม่ได้ขึ้นไปดูวิวด้านบน  แต่ก็มีความสุขดีค่ะ  ขอแนะนำชาววีลแชร์มาเที่ยวที่นี่ค่ะ  และขอให้มีความสุขกับการท่องเทียวค่ะ